Difference between revisions of "File:LiSitsin2.jpg"

Prototype of Li Sitsin, personage of utopua Tartaria.

Fragment from image http://www.oknation.net/blog/home/user_data/file_data/201208/19/57124db49.jpg

Description

http://oknation.nationtv.tv/blog/doilor/2012/08/19/entry-2/comment

วันอาทิตย์ ที่ 19 สิงหาคม 2555

เรื่องเบาๆ เล่าสู่กันฟัง...ยามบ่ายวันอาทิตย์ Posted by อ้อยดอยหล่อ , ผู้อ่าน : 3100 , 15:00:36 น. หมวด : ทั่วไป พิมพ์หน้านี้ โหวต 4 คน คนปทุมรักสุขภาพและครอบครัว , ชายสามหยด และอีก 2 คนโหวตเรื่องนี้

..

  ณ มุมหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่  ผมขับรถผ่านอ่างเก็บน้ำที่มองดูสวยงามดีจึงอยากจะแวะเข้าไปสัมผัสกับความชุ่มชื่นของแหล่งน้ำนี้สักหน่อย  หวังว่าจะได้พบกัยความสงบและพักผ่อนสักชั่วครู่แล้วก็จะเดินทางต่อไป

เห็นบ้านเล็กๆหลังหนึ่งปลูกหลบมุมอยู่ริมอ่าง ดูช่างสมถะและเรียบง่าย ลักษณะเป็นการปลูกแบบพักอาศัยชั่วคราว

ที่หน้าบ้านเห็นชายแก่ดูท่าทางจะมีอายุมากแล้วนั่งอยู่อย่างสงบ ที่ข้างกายของแกมีแมวนอนอยู่เป็นเพื่อนตัวนึง

จากลักษณะท่าทางดูจะเป็นคนใจดี แกไว้หนวดเครายาวมองเห็นครั้งแรกแกก็ส่งยิ้มมาให้อย่างคนแก่ใจดี ผมก็มีไมตรีตอบยิ้มแกไป

ผมได้เข้าไปคุยกับแก ยิ่งคุยไปยิ่งรู้อะไรมากเข้าที่น่าทึ่ง เลยอยากเอามาเล่าสู่ให้พวกเราฟัง ชายคนนี้ชื่อว่า เล่าฟู แซ่ลี่ ผมถามว่าตาอายุเท่าไหร่แล้ว แทนที่แกจะตอบเป็นตัวเลขกลับบอกว่าอายุเท่าในหลวงน่ะเพราะเกิดปีเดียวกัน ผมก็บอกว่างั้นก็ 84แล้วสิ แกพยักหน้า

แกเป็นชาวเขาเผ่าม้ง เกิดและเติบโตที่เชียงดาว แกเคยมีเมียมาแล้วถึง 4 คน เมียคนแรกมีลูกด้วยกัน 9 คน เมียคนที่สองมีลูกด้วยกัน 7 คน เมียคนที่สามมีลูก 6 คน และเมียคนที่สี่มีลูกอีก 5 คน รวมทั้งหมดก็ 27 คน เป็นผู้หญิง 23 คน เป็นผู้ชาย 4 คน

ตอนแรกแกก็มีอาชีพปลูกฝิ่น ส่วนลูกชายก็ทำมาหากินไปด้วยและค้ายาเสพย์ติดไปด้วย ตอนหลังเกิดยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ลูกชายของแกสองคนเสียชีวิต แกกับลูกชายอีกคนหนึ่งก็แอบไปยิงเจ้าหน้าที่เพื่อแก้แค้น เจ้าหน้าที่ก็เลยตามล่าแก เกิดการยิงต่อสู้กันลูกชายแกตายอีกคน และตัวแกถูกยิงที่ขาได้รับบาดเจ็บจึงยอมให้ถูกจับ และถูกพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต

แกอยู่ในคุกหลายปีจนกระทั่งได้รับการพิจารณาลดโทษเนื่องในวันมหามงคลของในหลวงจนกระทั่งพ้นโทษออกมา แกก็กลับไปอยู่บ้านแกที่เชียงดาว แต่ก็เข้ากับครอบครัวไม่ได้เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกันมานานแล้วจึงเหินห่างกันไป

แกก็เลยระเหเร่ร่อนไม่มีหลักแหล่ง พเนจรไปเรื่อยจนมาเจอที่สงบริมน้ำแห่งนี้ จึงคิดปลูกกระต็อบเพื่ออยู่อาศัยชั่วคราว ผมแอบเข้าไปดูในห้องแกก็ไม่เห็นมีสมบัติอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน มีแต่รถจักรยานเก่าๆและสิ่งอื่นๆที่ไม่มีค่า นอกนั้นรกรุงรังไปหมด

แกอาศัยปลูกผักสวนครัวเพื่อไว้กินที่เห็นก็มีมะเขือเทศ แล้วก็ผักสีเขียวสีแดงไม่รู้ผักอะไรของแก จึงถามแกว่าไอ้สีเขียวสีแดงนั่นน่ะเป็นผักอะไร

แกบอกว่าผักสีแดงๆนั่นน่ะคือต้นโสม ชาวม้งปลูกต้นโสมไว้กินเอง และเหตุที่แกมีเมียได้หลายคนก็เพราะต้นโสมนี่แหละ ผมได้ยินเข้าก็หูผึ่งทันที ต้นโสมนี่คงจะทำให้แกฟิตปั๋งถึงมีเมียได้สี่คนมีลูกอีกตั้ง 27 คน แกบอกว่าใช่

ไม่ว่าใครได้กินโสมของแกเป็นต้องเดือดร้อน มีความต้องการทางเพศมาก และทุกวันนี้แกก็ยังกินอยู่ และถึงแม้แกจะอายุ 84 แล้วก็ตาม เดี๋ยวนี้ก็มีเมียอยู่ด้วยอีกคน เป็นผู้หญิงทำงานบริการ กลางคืนจึงกลับมานอนกับแก

แกยังเล่าให้ฟังต่อไปอีกว่า เป็นเพราะแกกินโสมแบบนี้เป็นประจำจึงมีแรงขยันขันแข็งสามารถทำงานได้ทั้งวันไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทีนี้ลูกสาวของแกก็แอบมากินยาดองโสมของแกบ้างเพราะรู้ว่ากินแล้วทำให้มีแรงทำงานได้ทั้งวัน

แล้วก็เป็นจริงอย่างนั้นพอลูกสาวที่ได้กินโสมของพ่อแล้วมีแรงทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยจริงๆก็บอกต่อๆกันไปในหมู่ลูกสาวทั้ง 23 คน ทีนี้คงอาจจะเป็นด้วยฤทธิ์โสมที่กินเข้าไปจึงทำให้ลูกสาวของแกทุกคนกลายเป็นทอมไปหมด แทนที่ลูกสาวจะมีผัว กลับกลายเป็นว่าลูกสาวแกต่างก็มีเมียไปทุกคน

เรื่องนี้แกบอกว่าเป็นเรื่องจริงไม่ได้คิดจะเอามาเล่าเล่นๆให้ใครฟัง เพราะบางคนก็เชื่อบางคนก็ไม่เชื่อ แต่ที่แน่ๆคนที่เชื่อกลางคืนแอบมาลักขโมยโสมของแกไปกินก็มี

ก็นับว่าเป็นเรื่องแปลกที่ไม่เคยได้ยินเรื่องราวแบบนี้ ไม่คิดว่าจะมีโสมวิเศษที่สามารถทำให้กลายเพศไปได้ หลังจากฟังแกเล่าจบผมก็ขอทดลองพิสูจน์โสมที่แกดองไว้สักกรึ๊บนึง ว่ามันจะมีฤทธิ์อย่างว่าจริงหรือเปล่า กรึ๊บนึงจริงๆ แล้วก็ลาแกกลับบ้าน

เหตุการณ์ที่เล่ามานี้ผ่านมาปีกว่าแล้ว ทุกวันนี้บ้านกระต็อบหลังเล็กๆของแกถูกรื้อย้าย ตัวแกก็ย้ายไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ผมได้เที่ยวสืบถามหาแต่ก็ไม่พบตัวแก ที่ถามหาหวังว่าจะได้พบตัวแกอีกครั้ง อยากจะบอกแกว่า ไอ้ที่ผมได้ลองกรึ๊บยาดองโสมของแกไปแล้วนั้น มันได้ผลจริงๆด้วย อยากขอลองอีกสักกรึ๊บก็แค่นั้นเองแหละ

References

<referecnes/>